วันจันทร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2556

พื้นที่การทำนา

การปลูกข้าวในภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย โดย นายประพาส วีระแพทย์ 
          ประเทศไทยเป็นประเทศกสิกรรม  ประชาชนส่วนใหญ่เป็นกสิกร  ทำการเพาะปลูกพืชไร่ เช่น ข้าว  ข้าวโพด อ้อย ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ทำการปลูกไม้ผล  เช่น ทุเรียน ส้ม มะม่วง มังคุด ลางสาด นอกจากนี้ ในท้องที่ต่าง ๆ  ของภาคใต้และจังหวัดระยอง  จันทบุรี  ตราด ได้ทำการปลูกยางพาราอีกด้วย ในจำนวนพืชที่กสิกรปลูกดังกล่าวนี้ ข้าวมีพื้นที่ปลูกมากกว่าพืชชนิดอื่น ๆ คิดเป็นพื้นที่ประมาณ  ๑๑.๓% ของพื้นที่ทั่วประเทศ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีพื้นที่ทำนามากที่สุด รองลงมา ได้แก่ภาคเหนือและภาคใต้ตามลำดับ จำนวนพื้นที่ปลูกข้าวในภาคต่าง ๆ ได้แสดงไว้ในตารางที่ ๑
          เนื่องจากประชาชนในประเทศไทยบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก และจำนวนประชากรก็เพิ่มมากขึ้นทุก ๆ  ปี  ด้วยเหตุนี้ ชาวนาจึงจำเป็นต้องพยายามปลูกข้าวให้ได้ผลิตผลมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พอเพียงกับความต้องการของประชากร วิธีหนึ่งที่ชาวนาได้พยายามเพื่อเพิ่มผลิตผล ได้แก่ การขยายพื้นที่ทำนา โดยเปิดป่าใหม่ทำนาปลูกข้าว  จากตารางที่  ๓ จะเห็นได้ว่าผลิตผลได้เพิ่มขึ้นตามพื้นที่นาที่เพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี ส่วนวิธีการเพิ่มผลิตผลโดยวิธีอื่นนั้น ชาวนาไม่สามารถทำได้ เช่น  การคัดเลือกหาพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลิตผลสูง พันธุ์ต้านทานโรคและแมลง ข้าวพันธุ์ที่ตอบสนองต่อปุ๋ย วิธีการป้องกันกำจัดโรค แมลง และวัชพืชในนาข้าว  ซึ่งรัฐบาลจะต้องเป็นผู้ดำเนินการช่วยเหลือชาวนา  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้โดยตรง ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
          ข้าวที่ปลูกเพื่อการบริโภคเป็นอาหารมี  ๒ ชนิด   คือ ออไรซา  ซาไทวา ซึ่งมีปลูกทั่วไปในทุกประเทศ และออไรซา แกลเบอร์ริมา ซึ่งมีปลูกเฉพาะในแอฟริกาเท่านั้น ข้าวสองชนิดนี้แตกต่างกันที่ ออไรซา  แกลเบอร์ริมาไม่มีแขนงที่สองที่รวงข้าว และมีเยื่อกันน้ำฝนสั้นกว่าออไรซา  ซาไทวาด้วย  ข้าวพวกออไรซา  ซาไทวา  ยังแยกออกได้เป็นอินดิคา มีปลูกมากในเขตร้อน และจาปอนิคา มีปลูกมากในเขตอบอุ่น  ข้าวที่ปลูกในประเทศไทยเป็นพวกอินดิคา ซึ่งแบ่งออกเป็นข้าวเจ้า  และข้าวเหนียว

ตารางที่ ๓ เนื้อที่เพาะปลูกและจำนวนผลิตผลข้าวเปลือกในประเทศไทยในระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๐-๒๗
พ.ศ.
เนื้อที่เพาะปลูก
(ล้านไร่)
จำนวนผลิตผลข้าวเปลือก
(ล้านตัน)
ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่
(กิโลกรัม)
๒๕๒๐–๒๕๒๑
๒๕๒๑–๒๕๒๒
๒๕๒๒–๒๕๒๓
๒๕๒๓–๒๕๒๔
๒๕๒๔–๒๕๒๕
๒๕๒๕–๒๕๒๖
๒๕๒๖–๒๕๒๗
๕๖.๔
๖๒.๗
๕๙.๑
๖๐.๑
๖๐.๑
๖๐.๑
๖๒.๖
๑๓.๙
๑๗.๕
๑๕.๘
๑๗.๔
๑๗.๘
๑๖.๙
๑๙.๖
๒๕๕
๓๑๓
๒๙๑
๓๐๒
๓๑๒
๓๐๒
๓๒๖

 รวบรวมจากเอกสารสถิติการเกษตร เลขที่ ๒๑๓ พ.ศ.๒๕๒๗ 
ลักษณะรวงข้าวชนิดออไรซา แกลเบอร์ริมา

พื้นที่ปลูกข้าว

[ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้]

หัวข้อ
ภาคเหนือ 
          ทำการปลูกข้าวนาสวนในที่ราบระหว่างภูเขากันเป็นส่วนใหญ่  เพราะมีระดับน้ำในนาตื้นกว่า ๘๐ เซนติเมตร และทำการปลูกข้าวไร่ในที่ดอน  และที่สูงบนภูเขา  เพราะไม่มีน้ำขังในพื้นที่ปลูก  ส่วนมากชนิดของข้าวที่ปลูกเป็นทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า  และในบางท้องที่มีการปลูกข้าวนาปรังด้วย แมลง  ศัตรูข้าวที่สำคัญ ได้แก่ แมลงบั่ว หนอนกอ เพลี้ยจักจั่นสีเขียวและสีน้ำตาล และโรคข้าวที่สำคัญ ได้แก่ โรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง โรคใบสีแสด และโรคถอดฝักดาบ  ภาคนี้มีความอุดมสมบูรณ์ของดินนาดีกว่าภาคอื่น ๆ  ข้าวนาปีทำการเก็บเกี่ยวในระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม
[กลับหัวข้อหลัก]
[ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้]
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 
          สภาพของพื้นนาในภาคนี้เป็นที่ราบ และมักจะแห้งแล้งในฤดูปลูกข้าวเสมอ ๆ ชาวนาทำการปลูกข้าวนาสวน ทางตอนเหนือของภาคปลูกข้าวเหนียวอายุเบา  ส่วนทางตอนใต้ปลูกข้าวเจ้าอายุหนักแถบริมฝั่งแม่น้ำโขง  โดยเฉพาะในเขตจังหวัดอุบลราชธานี  นครพนมและสกลนครได้มีแมลงบั่วทำลายต้นข้าวนาปีจนเสียหายเสมอ นอกจากนี้  ได้มีแมลงเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดด้วย  โรคข้าวที่สำคัญ ได้แก่  โรคไหม้  โรคขอบใบแห้ง  และโรคใบจุดสีน้ำตาล ความอุดมสมบูรณ์ของดินในภาคนี้เลวมาก บางแห่งก็เป็นดินเกลือและมักจะมีความแห้งแล้งกว่าภาคอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ จึงมีการทำนาปรังน้อยมาก  ข้าวนาปีจะทำการเก็บเกี่ยวในระหว่างเดือนตุลาคมและธันวาคม
[กลับหัวข้อหลัก]
[ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้]
ภาคกลาง 
          พื้นที่ทำนาในภาคนี้เป็นที่ราบลุ่มทำการปลูกข้าวเจ้ากันเป็นส่วนใหญ่  ในเขตจังหวัดปทุมธานี  อยุธยา  อ่างทอง สิงห์บุรี  อุทัยธานี  นครสวรรค์  พิจิตร  พิษณุโลก  สุพรรณบุรี และปราจีนบุรี  ระดับน้ำในนาระหว่างเดือนกันยายนและพฤศจิกายน  จะลึกประมาณ  ๑-๓ เมตร ด้วยเหตุนี้  ชาวนาในจังหวัดดังกล่าวจึงต้องปลูกข้าวนาเมืองหรือข้าวขึ้นน้ำ  นอกนั้น  ปลูกข้าวนาสวน และบางท้องที่ซึ่งอยู่ในเขตชลประทาน  เช่น  จังหวัดนนทบุรี  นครปฐม เพชรบุรี ปทุมธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท และฉะเชิงเทรา ได้มีการทำนาปรังด้วย  โรคข้าวที่สำคัญ  ได้แก่  โรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง โรคใบสีส้ม โรคจู๋  และแมลงศัตรูข้าวที่สำคัญ  ได้แก่ แมลงเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล  แมลงเพลี้ยจักจั่นสีเขียว  แมลงหนอนกอ  ความอุดมสมบูรณ์ของดินดีปานกลางและบางท้องที่เขตจังหวัดปทุมธานี  นครนายก และปราจีนบุรี  ดินที่ปลูกข้าวมีฤทธิ์เป็นกรดหรือ เป็นดินเหนียวมากกว่าในท้องที่นาอื่น ๆ ข้าวนาปีที่ปลูกเป็นข้าวนาสวน  จะเก็บเกี่ยวในระหว่างเดือนตุลาคมและธันวาคม ส่วนข้าวนาปีที่ปลูกเป็นข้าวนาเมืองเก็บเกี่ยวในระหว่างเดือนธันวาคมและมกราคม
[กลับหัวข้อหลัก]
การทำนาในที่ลุ่มภาคกลาง

[ดูภาพทั้งหมดในเรื่องนี้]
ภาคใต้ 
          สภาพพื้นที่ที่ปลูกข้าวในภาคใต้เป็นที่ราบริมทะเล และเป็นที่ราบระหว่างภูเขา ส่วนใหญ่ใช้น้ำฝนในการทำนา ทางฝั่งตะวันตกจะมีฝนเร็วกว่าทางฝั่งตะวันออก และฝนจะมาล่าช้ากว่าภาคอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ การทำนาในภาคใต้จึงล่าช้ากว่าภาคอื่น ชาวนาในภาคนี้ ปลูกข้าวเจ้าในฤดูนาปีกันเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยในเขตชลประทานของจังหวัดนครศรีธรรมราช  พัทลุง และสงขลา มีการปลูกข้าวนาปรังและปลูกแบบนาสวน  บริเวณพื้นที่ดอนและที่สูงบนภูเขาชาวนาปลูกข้าวไร่  เช่น การปลูกข้าวไร่เป็นพืชแซมยางพารา แมลงศัตรูข้าวที่สำคัญ ได้แก่  หนอนกอ  เพลี้ยจักจั่นสีเขียว และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล  โรคข้าวที่สำคัญ ได้แก่ โรคไหม้  โรคขอบใบแห้ง โรคดอกกระถิน โรคใบจุดสีน้ำตาล และโรคใบจุดขีดสีน้ำตาล นอกจากนี้  ดินนาก็มีปัญหาเกี่ยวกับดินเค็มและดินเปรี้ยวด้วย  วิธีการเกี่ยวข้าวในภาคใต้แตกต่างไปจากภาคอื่น เพราะ ชาวนาใช้แกระเกี่ยวข้าวโดยเก็บทีละรวงแล้วมัดเป็นกำ ๆ ปกติทำการเก็บเกี่ยวในระหว่างเดือนพฤศจิกายน และกุมภาพันธ์
[กลับหัวข้อหลัก]
การเกี่ยวข้าวด้วยแกระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น